วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การซื้อสินค้าทาง Internet ไม่ให้โดนหลอก

  1. การจดทะเบียนชื่อเวป ถ้าเป็น .com , .net บุคคลธรรมดาทั่วไปสามารถจดได้ แต่ถ้าเป็น .co.th ต้องเป็นบริษัทจำกัด จึงจะจดทะเบียนนามสกุลนี้ได้
  2. มีเบอร์ติดต่อได้สะดวก ชัดเจน มีทั้งเบอร์ออฟฟิตหรือเบอร์บ้าน เพราะลูกค้าสามารถโทรตรวจสอบได้ที่ 1133 ว่าเปิดมานานหรือยัง
  3. ถ้าไม่มีเบอร์ออฟฟิต ให้ดูที่เบอร์มือถือว่าจดทะเบียนมานานหรือยัง สามารถโทรตรวจสอบกับศูนย์บริการได้
  4. สามารถเข้าดูใน Web board ว่ามีการ update อยู่ตลอดหรือไม่
  5. สอบถามลูกค้าที่ซื้อสินค้าใน Web board ว่าทางบริษัทนี้เป็นอย่างไร
  6. Search ใน Google ว่ามีลูกค้าเข้าชมเยอะหรือไม่ มีลูกค้าเคยโดนหลอกหรือไม่
  7. มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่
  8. Search ชื่อผู้ขายหรือบริษัทว่าเคยมีประวัติการขายใน Google หรือไม่
  9. สามารถติดต่อรับสินค้าที่ สถานที่ตั้งของผู้ขาย บริษัทหรือโรงงาน ได้ ว่ามีตัวตนหรือไม่
  10. ถ้าเป็นบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามารถตรวจสอบได้ที่ www.dbd.go.th เป็นเวปของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่าจดทะเบียน จริงหรือไม่

บทความจาก: http://www.bcoms.net/

นักวิเคราะห์เชื่อ อเมซอนเล็งออกสมาร์ทโฟนปีหน้า

นักวิเคราะห์เชื่อ อเมซอนดอทคอม (Amazon.com Inc.) ผู้ค้าปลีกหนังสือและคอนเทนต์ดิจิตอลออนไลน์รายใหญ่ไม่หวังแตกไลน์สินค้ามา สู่แท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสอย่างเดียว แต่กำลังมีแผนผลิต"สมาร์ทโฟน"หรือโทรศัพท์มือถืออัจฉริยะเพื่อวางตลาดช่วงปี หน้า (2012)

มาร์ก มาฮาเนย์ (Mark Mahaney) นักวิเคราะห์บริษัท Citi คาดการณ์เรื่องนี้ในเอกสารที่ตีพิมพ์สำหรับเผยแพร่แก่นักลงทุน โดยระบุว่าจากการตรวจสอบสายการผลิตในเอเชีย ทำให้บริษัทเชื่อว่าขณะนี้อเมซอนกำลังประสานงานกับโรงงานผลิตอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติไต้หวันอย่างฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn International Holdings) เบื้องต้นเชื่อว่าอเมซอนกำลังวางแผนเปิดตัวสมาร์ทโฟนราคาระดับกลางในช่วงไตร มาส 4 ปีหน้า

คำวิเคราะห์ของมาฮาเนย์เกิดขึ้นหลังการเริ่มจัด ส่งแท็บเล็ต Kindle Fire อย่างเป็นทางการเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Kindle Fire นั้นเป็นแท็บเล็ตขนาด 8.9 นิ้วที่อเมซอนแตกไลน์สินค้าจากเดิมที่บริษัททำตลาดเฉพาะอุปกรณ์อ่านหนังสือ ดิจิตอลอย่างเดียว เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูหนัง-ฟังเพลง-เล่นเกม รวมถึงใช้งานบริการอื่นของอเมซอนที่ไม่ใช่การอ่านหนังสือได้มากขึ้น แต่ทั้งหมดนี้ มาฮาเนย์เชื่อว่าอเมซอนจะไม่หยุดที่แท็บเล็ต โดยอเมซอนจะมุ่งขยายตลาดไปที่สมาร์ทโฟนที่สามารถผูกพ่วงกับบริการนานาคอน เทนต์ดิจิตอลที่อเมซอนมีอยู่ แถมยังสามารถเข้าถึงผู้ใช้อุปกรณ์ทั่วโลกได้ดีกว่าแท็บเล็ต

มาฮาเนย์ยังเชื่อว่า หนึ่งในสมาร์ทโฟนที่อเมซอนจะเปิดตัวอาจจะมีราคาต่ำกว่า 200 เหรียญ (ราว 6,000 บาท) ซึ่งจะถูกผูกกับบริการเพลง-ภาพยนตร์-หนังสือดิจิตอลของอเมซอนอย่างแนบแน่น คาดว่าต้นทุนการผลิตสมาร์ทดฟนจะอยู่ที่ราว 150-170 เหรียญต่อเครื่อง ทั้งหมดนี้อเมซอนไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆ

ฟ็อกซ์คอนน์นั้นเป็นบริษัทในเครือ Hon Hai Precision บริษัทรับจ้างผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของโลกซึ่งอยู่เบื้องหลัง เครื่องอ่านอีรีดเดอร์ตระกูลคินเดิลของอเมซอนเอง รวมถึงไอโฟน (iPhone) และไอแพด (iPad) ของแอปเปิล อย่างไรก็ตาม มาฮาเนย์ไม่ระบุว่าข้อมูลที่ได้มานั้นมาจากฟ็อกซ์คอนน์ แต่เป็นข้อมูลจากทีมวิจัยของ Citi ในกรุงไทเปซึ่งนำทีมโดยเควิน ชาง (Kevin Chang)

ทีมวิจัยเชื่อว่า สมาร์ทโฟนของอเมซอนจะใช้ชิป OMAP 4 ของค่าย Texas Instrument หรือไม่ก็ชิปดูอัลโหมดซีรียส์ 6 ของ Qualcomm ซึ่งมีดีกรีเป็นผู้ผลิตชิปให้อเมซอนมาตลอด หากอเมซอนใช้ชิปดังกล่าว จริง จะมีความเป็นไปได้สูงที่สมาร์ทโฟนจะมาพร้อมกล้อง 8 ล้านพิกเซล หน้าจอทัชสรีน 4 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อเทคโนโลยี HSPA+ ซึ่งทำให้การดาวน์โหลดและอัปโหลดข้อมูลบนสมาร์ทโฟนทำได้เร็วกว่า

"ความสำเร็จของเครื่องอ่านอีรีเดอร์ Kindle ที่ชัดเจนตลอด 3 ปีที่ผ่านมา และโอกาสที่ Kindle Fire จะสามารถครองตลาดแท็บเล็ตราคาประหยัดในอนาคตอันใกล้ ทั้งหมดนี้ทำให้เราเชื่อว่านี่คือก้าวต่อไปที่สมเหตุสมผลสำหรับอเมซอน" ตามเนื้อความที่มาฮาเนย์เขียนในรายงาน

อย่างไรก็ตาม ในรายงานของมาฮาเนย์ไม่ระบุถึงประเภทซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการที่คาดว่าจะใช้ ในสมาร์ทโฟนของอเมซอน เบื้องต้นมาฮาเนย์อ้างว่ายังมีความไม่ชัดเจนเรื่องสิทธิบัตรเทคโนโลยีในระบบ ปฏิบัติการที่ไมโครซอฟท์ประกาศตัวเป็นเจ้าของอยู่ และเริ่มเก็บค่าสิทธิบัตรเทคโนโลยีผู้ผลิตสินค้าแอนดรอยด์ของกูเกิลในวง กว้างขึ้น ซึ่ง Kindle Fire ก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่มีความเสี่ยงถูกเรียกเก็บค่าต๋ง คาดว่าทั้งหมดจะมีความชัดเจนในช่วงต้นปีหน้า

ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์

ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์และกฎหมายลิขสิทธิ์

ลิขสิทธิ์คืออะไร : ลิขสิทธิ์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาอย่างหนึ่ง ที่กฎหมายให้ความคุ้มครองโดยให้เจ้าของลิชสิทธิ์ถือสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ที่จะกระทำการใดๆ เกี่ยวกับงานสร้างสรรค์ที่ตนได้กระทำขึ้น

งานอันมีลิขสิทธิ์ : งานสร้างสรรค์ที่จะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิชสิทธิ์ต้องเป็นงาน ในสาขา วรรณกรรม นาฏกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่เสียงแพร่าภาพ รวมถึงงานอื่นๆ ในแผนกวรรณคดีวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ งานเหล่านี้ถือเป็นผลงานที่เกิดจากการใช้สติปัญญา ความรู้ความสามารถ และความวิริยะอุตสาหะ ในการสร้างสรรค์งานให้เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ


การได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ : สิทธิในลิขสิทธิ์เกิดขึ้นทันที นับแต่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ผลงานออกมาโดยไม่ต้องจดทะเบียน หรือผ่านพิธีการใดๆ


การคุ้มครองลิขสิทธิ์ : ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ในการใช้ประโยชน์จากผลงานสร้างสรรค์ของตน ในการทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน รวมทั้งสิทธิในการให้เช่า โดยทั่วไปอายุการคุ้มครองสิทธิจะมีผลเกิดขึ้นทันทีที่มีการสร้างสรรค์ผลงาน โดยความคุ้มครองนี้จะมีตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์และคุ้มครองต่อไปนี้อีก 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์เสียชีวิต

ประโยชน์ต่อผู้บริโภค : การคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิในผลงานลิขสิทธิ์ มีผลให้เกิดแรงจูงใจแก่ผู้สร้างสรรค์ผลงานที่จะสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่า ทางวรรณกรรมและศิลปกรรมออกสู่ตลาดส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับความรู้ ความบันเทิง และได้ใช้ผลงานที่มีคุณภาพ

พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์

กฎหมายลิขสิทธิ์มีวัตถุประสงค์ให้ความคุ้ม ครอง ป้องกันผลประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจและทางศีลธรรม ซึ่งบุคคลพึงได้รับจากผลงานสร้างสรรค์อันเกิดจากความนึกคิด และสติปัญญาของตน นอกจากนี้ยังมุ่งที่จะสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงาน กล่าวคือ เมื่อผู้สร้างสรรค์ได้รับผลตอบแทนจากหยาดเหงื่อแรงกายและสติปัญญา ของตน ก็ย่อมจะเกิดกำลังใจที่จะคิดค้นสร้างสรรค์และเผยแพร่ผลงานให้แพร่หลายออกไป มากขิ่งขึ้นอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี การกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาสติปัญญาของคนในชาติ เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ประเทศไทยได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เพื่อใช้บังคับแทน พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 21 มีนาคม 2538 พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครองต่อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยจัดให้เป็นผลงานทางวรรณการประเภทหนึ่ง

งานที่ได้จัดทำขึ้นก่อนวันที่พระราชบัญญัติ นี้ใช้บังคับ และเป็นงานที่ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ จะได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้

แม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายคุ้มครอง ลิขสิทธิ์มาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ความเข้าใจของประชาชนโดยทั่วไปในเรื่องลิขสิทธิ์ยังไม่ชัดเจน ความตระหนัก รู้ถึงความสำคัญขงการคุ้มครองลิขสิทธิ์ และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่ยั่งยืนกว่า การปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

การละเมิดลิขสิทธิ์

การละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง : คือ การทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่โปรแกรมคอมพิวเตอร์แก่สาธารณชน รวมทั้งการนำต้นฉบับหรือสำเนางานดังกล่าวออกให้เช่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์

การละเมิดลิขสิทธิ์โดยอ้อม : คือ การกระทำทางการค้า หรือการกระทำที่มีส่วนสนับสนุนให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าวข้างต้นโดย ผู้กระทำรู้อยู่แล้ว ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น แต่ก็ยังกระทำเพื่อหากำไรจากงานนั้น ได้แก่ การขาย มีไว้เพื่อขาย ให้เช่า เสนอให้เช่า ให้เช่าซื้อ เสนอให้เช่าซื้อ เผยแพร่ต่อสาธารณชน แจกจ่ายในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของลิขสิทธิ์และนำหรือ สั่งเข้ามาในราชอาณาจักร

บทกำหนดโทษ

การละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง : มีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หากเป็นการกระทำเพื่อการค้า มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การละเมิดลิขสิทธิ์โดยอ้อม : มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท หากเป็นการกระทำเพื่อการค้า มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 บาท ถึง 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราช บัญญัติลิขสิทธิ์ฉบับนี้ เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนดห้าปีกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้อีก จะต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

กรณีที่นิติบุคคลกระทำความผิดตามพระราช บัญญัตินี้ ให้ถือว่ากรรมการหรือผู้จัดการทุกคนของนิติบุคคลนั้นเป็นผู้ร่วมกระทำความ ผิดกับนิติบุคคลนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่ามิได้รู้เห็นหรือยินยอมด้วย

ค่าปรับที่ได้มีการชำระตามคำพิพากษานั้น ครึ่งหนึ่งจะตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์อย่าวไรก็ดีการได้รับค่าปรับดังกล่าว ไม่กระทบต่อสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์ ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งสำหรับส่วนที่เกินจำนวนเงินค่าปรับที่ เจ้าของลิขสิทธิ์ได้รับไว้แล้วนั้น

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับการละเมิดลิขสิทธิ์

การละเมิดลิขสิทธิ์เป็นการกระทำที่ผิด กฎหมาย นอกจากความเสี่ยงทางด้านกฎหมายที่ท่านอาจได้รับแล้ว ธุรกิจของท่านยังสูญเสียชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ ซึ่งทำให้สูญเสียรายได้และดำเนินธุรกินได้ยากขึ้น นอกจากนี้ ท่านยังต้องเสี่ยงกับการใช้ซอฟต์แวร์ที่อาจสร้างปัญหาให้กับข้อมูลทางการค้า มีค่าของท่าน ไม่ได้รับการสนับสนุน ด้านเทคนิค และข่าวสารอันเป็นประโยชน์ต่อท่านและธุรกิจของท่าน การสนับสนุนการละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นส่วนหนึ่งที่หยุดยั้งการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรม ไอทีซึ่งเป็น อุตสาหกรรมที่มีนาคต อันจะนำมาซึ่งรายได้ให้กับประเทศไทย และมีการพัฒนาความรู้ด้านไอทีให้กับบุคลากรของประเทศ ทำให้สามารถแข่งขันได้ในโลกการค้าโลกาภิวัตน์

มูลค่าการละเมิดลิขสิทธิ์

ในปี 2542 สถิติการละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย มีอัตราสูงถึงร้อยละ 81 ทำให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์สูญเสียรายได้มากกว่า 3,200 ล้านบาท ความสูญเสีย ดังกล่าวไม่เพียงส่งผลกระทบต่อ อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ แต่ยังส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยอีกด้วย การละเมิดลิขสิทธิ์ ซอฟต์แวร์ เป็นอุปสรรค ที่บั่นทอนการพัฒนาวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆในภูมิภาค การลดอัตรา การจ้างงาน การพัฒนาบุคลากร การลงทุน และทำให้รัฐบาลขาดรายได้จากการเก็บภาษีอันจะ นำมาพัฒนาประเทศได้อีกด้วย อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ เป็นอุตสาหกรรมที่มีอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการส่งเสริมให้คนไทยใช้ความสามารถในการคิดค้น และเพิ่มศักย์ภาพในการพัฒนาซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพของประชาชน บุคลากรรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวเข้ามาสู่ตลาดแรงงานจะมีภาคธุรกิจรองรับ หากแต่การละเมิดลิขสิทธิ์เป้นปัญหาสำคัญที่ทำให้ความเจริญเติบโตเหล่านี้ หยุดยั้งไป เนื่องจากธุรกิจที่ซื่อสัตย์ไม่สามารถแข่งขันได้ และขาดกำลังใจในการพัฒนาธุรกิจของตน

การกระทำที่ถูกกฎหมายทำได้อย่างไร

ซื้อลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์ที่ท่านใช้งานอยู่ ทุกซอฟต์แวร์ที่มีการใช้งานต้องมีลิขสิทธิ์เสมอ

ติดตั้งและใช้งานลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ 1 ชุดในคอมพิวเตอร์เพียง 1 เครื่องเท่านั้น

อย่าทำสำเนาโปรแกรมเพื่อการสำรองมากกว่า 1 สำเนา

อย่าให้ผู้ใดขอยืมซอฟต์แวร์ของท่านไปติดตั้ง

ทราบได้อย่างไรว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้มีลิขสิทธิ์ถูกต้องหรือไม่

เมื่อท่านซื้อซอฟต์แวร์มาใช้งาน ท่านควรได้รับใบอนุญาตการใช้งานซึ่งระบุสิทธิที่เจ้าของลิขสิทธิ์อนุญาตให้ ท่านใช้งานซอฟต์แวร์เหล่านี้ได้ รวมทั้งระบุขอบข่ายของการใช้งานอีกด้วย เช่น ซอฟต์แวร์บางประเภทอาจอนุญาตให้ท่านใช้งานสำเนาที่สองสำหรับการทำงานที่บ้าน ได้ท่านควรอ่านเอกสาร เหล่านี้ให้ละเอียดเพื่อประโยชน์ของท่านเอง และเก็บเอกสารเหล่านี้ไว้เป็นหลักฐานในการมีลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องเสมอ

ข้อสังเกตของซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์

ซอฟต์แวร์ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ

โปรแกรมนั้นอยู่ในแผ่น CD-ROM ที่บรรจะซอฟต์แวร์หลายชนิดซึ่งมักเป็นผลงานจากผู้ผลิตซอฟต์แวร์หลายบริษัท

ซอฟต์แวร์จำหน่ายโดยบรรจุในกล่องพลาสติกใสโดยไม่มีกล่องบรรจุภัณฑ์

ไม่มีเอกสารอนุญาตการใช้งาน หรือคู่มือการใช้งาน


บทความจาก : http://oho.ipst.ac.th/article/it-articles/39-Copyr